รอคอยคือลงมือทำ



หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กายใจ ฉบับวันที่ 24 เมษายน 2554

ผมมั่นใจว่าคนไทยเกินสิบล้านคน ยอมรับว่าการรอคอยเป็นการอดทนที่ทุกข์ทรมาน ยิ่งต้องรออะไรนานๆ ความทรมานยิ่งเพิ่มทบทวี และใช่แค่คนไทย ผมว่าคนส่วนใหญ่ในโลกใบนี้คงมีที่เห็นด้วยจำนวนเกินหลักพันล้านคนอย่างง่ายดาย

ไม่ว่าสิ่งที่รอคอยจะเป็นอะไร เป็นรูปธรรมอย่างคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หรือเป็นนามธรรมอย่างตำแหน่ง สถานภาพ โอกาส สิ่งเหล่านี้มันทำให้ช่วงเวลาของการรอคอยนั้นเนิ่นนาน ราวกับว่าเวลาค่อยๆ คืบคลานเดินทางไปเชื่องช้ากว่าปรกติหลายเท่าตัว

การรอคอยมีลักษณะพิเศษคือ ไม่เกี่ยวเลยว่าเป้าหมายจะดีหรือร้าย ดังเช่น คนที่ต้องรออะไรซึ่งใจตัวเองไม่ปรารถนาย่อมอึดอัดทรมาน อยากให้มันผ่านๆ ไปเป็นแน่ แต่คนที่รออะไรที่ใจมันต้องการ ยิ่งทรมานกระวนกระวาย อยากให้เวลาผ่านไปไวอย่างใจนึก

ตัวอย่างเล็กๆ มีให้เห็นมากมายในชีวิตประจำวันของเรา นับแต่การรอสัญญาณไฟจราจร รอรถประจำทาง รอประกาศผลการสอบ รออาหารที่สั่งไป กระทั่งรอการดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ต

พวกเราในตัวอย่างสถานการณ์เหล่านี้มักพากันตกอยู่ในความอึดอัด อยากให้ได้อยากให้ถึงจุดสิ้นสุดของการรอเสียที บางคนเลยหาอะไรอย่างอื่นทำ เอาเรื่องอื่นขึ้นมาคิด หยิบหนังสือนิตยสารมาอ่าน ให้ทันยุคทันสมัยนี้ ต้องงัดโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด เล่นเกมบ้าง แชตบ้าง อะไรบ้าง

การใช้ช่วงเวลารอคอยด้วยการฆ่าเวลา จึงเป็นประโยชน์ขึ้นมาสำหรับเรา เพราะมันช่วยให้เราหลบหลีกความรู้สึกทุกข์ทรมานของใจในระหว่างการรอคอย ทว่า ทั้งนี้และทั้งนั้นมันยังไม่ได้ช่วยให้เวลาเดินเร็วขึ้นแต่ประการใด เมื่อเราใช้เวลารอด้วยการฆ่าเวลา เพื่อให้ใจได้หลบหลีกความเบื่อหน่ายและอึดอัด แต่กลายเป็นว่ากลยุทธนี้นี่แหละที่ทำให้ตัวเราหายไปจากปัจจุบันขณะตรงหน้าเสียแล้ว

น่าเสียดาย เพราะในระหว่างรอ เรายังสามารถทำอะไรได้ตั้งมากมายเพื่อสิ่งที่เรารอ โดยไม่ต้องสับหลีกหลบไปทำอะไรอื่นซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน รอรถก็ตรวจดูข้าวของให้ดี รอสัญญาณไฟก็สังเกตถนนหนทางข้างหน้า ในระหว่างรอ เราเตรียมทุกอย่างภายนอกแล้วก็เตรียมความพร้อมของใจ อันนี้สำคัญ

หลายครั้ง เมื่อสิ้นสุดการรอคอยลง ผลที่ได้รับหรือได้พบก็ไม่น่าพึงพอใจเท่าใด ดีไม่ดีความอึดอัดคับข้องใจไม่ได้หายไปไหน นั่นเพราะเราละเลยการเตรียมพร้อมของใจ

ระหว่างที่รอไม่ว่าจะสั้นจะนานแค่ไหน ล้วนแต่มีโจทย์ให้เราต้องจัดการ ไหนจะความคาดหวัง ไหนจะความรู้สึกอึดอัดทรมาน ไหนจะความรำคาญเบื่อหน่าย จะว่าไปก็เป็นโจทย์เจ้าประจำวนเวียนเข้ามาท้าทายเราเสมอๆ เป็นโจทย์ของใครของมันต่างกัน แต่รับประกันว่าได้เจอะเจอกันทุกคน

การฆ่าเวลา จึงไม่ใช่กลยุทธการใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพโดยได้ทำ ได้เล่น หรือได้คิดหลายอย่างระหว่างรอ ในอีกมุม มันเป็นกลยุทธการหลบลี้หนีโจทย์ของใจที่ไม่อยากเข้าไปเผชิญหน้ากับสภาวะขุ่นมัวทั้งหลาย รอครั้งนี้จบไปก็ยังมีการรอคอยครั้งใหม่ในชีวิตอยู่ข้างหน้า

ลุยกันเลยดีกว่า ใช้เวลารอเป็นเวลาลงมือทำ ทำงานเตรียมพร้อมกับสภาวะของใจ เปิดรับและยอมรับให้ได้กับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ถูกมันกดทับจนจมดิ่งแพ้พ่ายอยู่ในอารมณ์เหล่านั้น ใช้เวลารอเป็นโอกาสของการฝึกฝนเพื่อให้เข้าใจตนเอง อยู่กับความอึดอัดโดยไม่หนีได้ ครั้งหน้าโจทย์นี้มาหาอีกก็ง่ายขึ้นเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องหลบไปไหน

การลงมือทำงานกับใจมีวิธีให้เลือกมากมาย ทั้งทางศาสนาและแนวทางร่วมสมัย ไม่ว่าการวิปัสสนา การเจริญเมตตา การบันทึกสะท้อนความรู้สึก นพลักษณ์ หรือให้ความเข้าใจตนเองผ่านการสื่อสารอย่างสันติ

เมื่อใจพร้อม คือดำรงอยู่ในความผ่อนคลายและวางใจ ผลลัพธ์สุดท้ายจะกลับกลายไปจากที่คาด เราก็ยังสามารถรับมือได้ เพราะเราได้ตระเตรียมจัดการสิ่งที่ยากที่สุดมาตลอดทางแล้วคือใจของตัวเอง

การรอคอยเคยไม่สนุกสนานรื่นรมย์ เป็นการอดทนที่ทรมาน เพราะใจเราคือตัวบงการตัดสินให้เป็น ถ้าเช่นนั้นใจตัวเดียวกันนี้แหละจะบอกได้ว่าการรอคอยเป็นเวลาที่เบิกบานผ่อนคลาย แค่เราให้การรอคอยคือการลงมือทำ