ข้ามผ่านความตายในเชิงสัญญะ



อาจจะเป็นเพียงแค่หนังสยองขวัญธรรมดาทั่วไปของไทยอีกเรื่องหนึ่ง "โลงต่อตาย" เล่าเรื่องหลอนที่ตามมาหลังจากตัวละครตัดสินใจเข้าพิธีนี้ นอนในโลงศพเพื่อต่ออายุให้กับตนเอง หรือคนที่ตนเองรัก ภาพประชาสัมพันธ์และตัวอย่างภาพยนตร์ไม่มีอะไรทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความแตกต่างจากหนังผีเรื่องอื่นๆ แต่หลายคนตัดสินใจดูเพราะเชื่อมือของผู้กำกับเอกชัย เอื้อครองธรรม ว่าคงไม่ทำหนังผีดาดๆ แน่นอน บางคนก็อาจจะตัดสินใจจากข้อมูลที่ว่าเป็นผลิตผลจากการร่วมทุนหลายชาติ

*** ข้อความต่อไปจะเปิดเผยเรื่องราวของหนัง ***

ตัวละครนำในเรื่องทั้งสองคน ต่างต้องพบกับวิญญาณติดตามมาหลังจากทำพิธีแล้วเสร็จ ผิดแผกกันที่ฝ่ายชายหวังจะให้แฟนสาวซึ่งกำลังป่วยหนักได้รอด และฝ่ายหญิงขอให้ตัวเองหายจากโรคร้าย เรื่องของทั้งสองดำเนินไปคู่ขนานกัน แต่ว่าไม่ได้เป็นในระนาบเวลาเดียวกัน บทเรียนของฝ่ายชายทำให้เธอเข้าใจกรณีของตัวเองมากขึ้น และเผชิญกับปัญหาในที่สุด

สิ่งที่ประทับใจผมมากคือ หนังเรื่องนี้คือเรื่องว่าด้วย "การเผชิญความตายอย่างสงบ" ที่หลวงพี่ไพศาล และเครือข่ายพุทธิกา จัดฝึกอบรมมานานปี แม้หน้าหนังจะเต็มไปด้วยภาพสยองน่ากลัว สถานการณ์ที่บีบคั้นบังคับ แต่การที่ตัวละครข้ามพ้นเหตุวิกฤตทั้งหลายมาได้ ไม่ใช่ด้วยพระสงฆ์มาสวดปัดเป่า เหมือนดังขนบธรรมเนียมของหนังผีไทยทั้งหลาย และไม่ใช่ด้วยการขอโทษขออภัยขอขมาสารพัดขอต่อผีร้ายอีกด้วย

ภาพของผีในตอนท้ายเรื่องเป็นผีที่มีความเป็นมนุษย์สูงมาก สิ่งที่เป็นสาระสำคัญคือ ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหากเรายอมรับและเผชิญหน้ากับความตายได้ ไม่ใช่ด้วยการหลบเลี่ยงใช้กลโกงซึ่งไม่เคยได้ผลอย่างแท้จริง เมื่อเขาและเธอกล้าที่จะลงไปนอนในโลงอีกครั้ง เผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายโดยไม่ต่อต้านขัดขืน ยอมรับและน้อมทำไปตามเหตุปัจจัยที่เกิด มากกว่าการพยายามเอาชนะธรรมชาติ

ผลที่ได้? แม้โรคร้ายจะกลับมา แม้คนที่รักจะจากไป แต่ความสงบเย็นในใจของทั้งสองเกิดขึ้นอย่างชัดแจ้ง เหตุการณ์ร้ายที่เกิดกับตัวของทั้งสองและคนรอบข้างไม่มีปรากฏอีก

หรือวิญญาณและภูตผีคือมายาการในจิตใจของตนเองที่หลอกหลอน ทำให้คนเราต้องดิ้นรนต่อสู้ เพราะยึดมั่นยึดถือว่าตนมีความสามารถเอาชนะทุกสิ่ง และพยายามจะยื้อร่างกายและชีวิตที่ไม่จีรังยั่งยืนนี้ไว้ กลับกลายเป็นแบกทุกข์ติดตัวตามไปทุกที่

มิน่าล่ะ .. ถึงได้ตั้งชื่อเรื่องว่า โลงต่อตาย

0 comments:

Post a Comment