วาทกรรมบนลานจอดรถ

วันนี้ขณะกำลังบังคับรถเข้าจอดในช่องจอดบนลานจอดของห้างสรรพสินค้า ยังไม่ทันจะดับเครื่องยนต์ก็เห็นวัยรุ่นหญิงชายคู่หนึ่งเดินเข้ามา ในมือมีกระดาษ ท่าทางบ่งบอกว่าขอเวลาเราสักครู่หนึ่ง ไม่แคล้วเป็นพนักงานขายแนะนำให้ซื้อแพ็คเกจ car care เป็นแน่ ทันทีที่ประเมินจบ ภาษากายโบกมือปฏิเสธก็ออกไปทันที แต่ดูเหมือนทั้งสองไม่ละความพยายาม

เปิดกระจกบอกน้องเขาหน่อยดีกว่าว่าอย่าเสียเวลาเลย พี่ไม่ซื้อหรอก ยังไม่ทันบอกเขาก็ว่าขอให้ทำแบบสอบถาม ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นวิทยานิพนธ์ ถ้าอย่างนั้นค่อยน่าช่วยหน่อย ความตั้งใจช่วยกลับมาเต็มที่จนเผลอไปซักถามว่าเขาเรียนชั้นไหน สาขาอะไร ทำไมแบบสอบถามถึงได้ไม่รัดกุมและมีช่องว่างมากขนาดนี้ ไม่มีคำแนะนำ ไม่มีปะหน้าบอกเหตุผลที่มา ครั้นได้รู้ว่าเขาเรียนแค่ปริญญาตรีและนี่คือการเก็บข้อมูลระดับวิทยานิพนธ์ยิ่งน่าหวั่นใจ อดไม่ได้ต้องฝากบอกและสอนให้เขารู้ว่าแบบที่ดีกว่านั้นเป็นอย่างไร รวมทั้งการแต่งกายและภาษาท่าทางของทั้งคู่ว่าทำอย่างไรจึงจะได้รับความร่วมมือขอให้คนอื่นตอบแบบสอบถามได้มากกว่านี้ ไวกว่านี้

แป๊นน เสียงแตรดังขึ้นจากรถคันที่จอดข้างๆ เราหันไปมองกันด้วยความสงสัย ผู้หญิงเจ้าของรถเธอบีบแตรทำไมกัน หันไปเห็นก็เข้าใจเรื่อง มีรถคันหนึ่งจอดซ้อนคันขวางเธออยู่ เสียงแตรของเธอดังขึ้นเพื่อบอกให้พนักงานรักษาความปลอดภัยคนที่ยืนถัดไปอีก 5 เมตรได้ยิน และมาทำหน้าที่เข็นรถให้

ผมเห็นสีหน้าของชายคนนั้น รปภ. หรือยามคนนั้น

แทบจะทันทีหลังจากที่น้องสองคนลาจากไป เขาเดินเข้ามาหาผมแล้วรำพึงอย่างคนอัดอั้นตันใจ แค่นี้เอง ทำไมต้องบีบแตรด้วย ผมแสดงความเห็นใจว่า เธอน่าจะเข็นเองได้ เขาว่านั่นเป็นหน้าที่ซึ่งเขายินดี หากแต่เธอจะบอกเขาหรือกวักมือไม่ได้เชียวหรือ หลายครั้งที่เขารู้สึกแย่อย่างนี้ แต่ยอมรับว่าไม่สามารถแสดงออกโต้ตอบด้วยวาจาได้

ระหว่างทางที่เดินจากมา ใจผมคิดว่าอะไรทำให้คนเราไม่ได้คุยกันตรงๆ ผมด่วนตีตราให้ความหมายของชายหญิงวัยรุ่นสองคนเร็วเกินไป หรือผมระมัดระวังความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของตัวเองมากเกินเหตุ ทำไมหญิงคนนั้นไม่พูดกับชายผู้ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เธอโดยตรง หากเขาเป็นชายในชุดลำลอง ไม่ได้เสื้อผ้าหน้าที่อย่างนี้ เธอจะขอร้องความช่วยเหลือจากเขาด้วยภาษาท่าทางอย่างที่เธอสื่อสารกับเพื่อนของเธอหรือเปล่า?

ประสบการณ์สอนให้เรารู้จักประเมิน สมมติและนิยามสิ่งต่างๆ ได้ แต่กลายเป็นกรงขังหรือเกราะแก้วขวางเราจากเรื่องราวอีกมากมายไปด้วยเช่นกัน ผมรู้สึกขอบคุณน้องนักศึกษาสองคนนั้น และพี่ชาย รปภ.คนนั้น ที่ทำให้วันนี้ผมได้เห็นตัวเองในตัวเอง และเห็นตัวเองในตัวคนอื่น

มหัศจรรย์และสนุกไม่แพ้การชมภาพยนตร์เลยครับ