ให้ชื่อ


หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กายใจ ฉบับวันที่ 10 มิถุนายน 2555

เมื่อราวหนึ่งดือนก่อน เพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่อยู่ต่างเมืองโทรฯ มาบอกข่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจว่าได้เป็นพ่อคนแล้ว ลูกสาวคนแรกและแม่แข็งแรงปลอดภัยดี จึงได้ถามไปว่าตั้งชื่อให้แล้วหรือยัง เพื่อนบอกให้ชื่อว่า “แอล” ฟังดูแล้วเข้าที เข้าใจตั้งให้คล้องกันกับชื่อพ่อและชื่อแม่ ใช้อักษร อ. จากชื่อ “อาร์ต” ของพ่อ และล้อความหมายไปพร้อมกับพ้องอักษรในภาษาอังกฤษของ “เล็ก” ซึ่งเป็นชื่อแม่ เพื่อนถึงกับทักว่านี่เป็นคนแรกเลยนะที่เดาถูก ไม่ต้องอธิบายว่าชื่อแอลนี้เป็นมาอย่างไร

นึกถึงหลานตัวน้อยก็พลอยคิดว่า เธอจะรู้ไหม ว่าพ่อและแม่รักและเอาใจใส่เธอแค่ไหน ลำพังการตั้งชื่อก็บรรจงคัดสรรมาให้เป็นอย่างดีและพิถีพิถัน สื่อถึงความผูกพัน และสายสัมพันธ์โยงใยเกี่ยวร้อยถึงกันในครอบครัว

เราอาจจะมองเรื่องเหล่านี้ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาทั่วไปก็ได้ ที่ชื่อของสมาชิกใหม่ในบ้าน มักจะต้องมีคำพ้องเสียงกับคนในครอบครัว หรือชื่อนั้นอาจถูกตั้งตามสมัยนิยม มีชื่อแนวภาษาต่างประเทศมากมายในยุคนี้

แต่หากเราใช้หัวใจและความรู้สึกเข้าไปสัมผัส เราจะรับรู้ถึงความปลื้มปิติ ความยินดี ความรัก ความผูกพัน และความหวังที่เขามีให้แก่กัน ผ่านชื่อนี่เอง

ในวัฒนธรรมชนเผ่า ซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็ก และพึ่งพาอาศัยธรรมชาติมาก เขาให้ความสำคัญกับเรื่องชื่อเป็นอย่างยิ่ง มีชื่อเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความหมายหลากหลายในตัวบุคคล เมื่อยังอ่อนวัย เด็กหญิงชายจะถูกเรียกด้วยชื่อหนึ่ง ครั้นเติบโตเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวที่สามารถมีครอบครัว ล่าสัตว์หาอาหาร และปกป้องเผ่าได้ จึงจะถูกให้ชื่อขนานนามอันเหมาะสมแก่บทบาทฐานะ

สถานภาพใหม่ในเผ่า มิใช่ได้มาเพราะแค่มีอายุถึงกำหนด แต่มาจากการได้แสดงศักยภาพ แสดงความสามารถที่ตนมีอย่างเหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ช่วงวัยใหม่ และสถานภาพนี้ก็ได้ถูกประกาศให้สมาชิกทุกคนได้รับรู้ผ่านการให้ชื่อนั่นเอง

ในภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ตัวละครชาวผิวขาวผู้ใช้ชีวิตอยู่ในเผ่าอินเดียนแดง จะได้รับการยอมรับเป็นสมาชิกเผ่าอย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อเขาได้ถูกให้ชื่อใหม่ เป็นความหมายว่าชนเผ่าได้รู้จักและผูกพันกับเขาผู้นี้แล้วอย่างแท้จริง มิใช่คนแปลกหน้า

ในสังคมปัจจุบันนั้นมีขนาดใหญ่มาก เราไม่อาจรู้จักกันอย่างทั่วถึงได้ แม้พิธีกรรมเรื่องชื่อจะไม่ได้มีความสลักสำคัญสักเท่าใด แต่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์เรามีต่างจากสิ่งมีชีวิตร่วมโลกอื่นทั้งหมด ชื่อของแต่ละคนมาจากความตั้งใจ กลั่นจากความคิดและความรู้สึก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปมันยังคงความหมาย บ่งบอกถึงแหล่งที่มาของชีวิตเขา สะท้อนให้รู้ถึงความสัมพันธ์ที่ผูกร้อยกันระหว่างผู้คนที่โอบอุ้มดูแลเขามา

หากเราภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในความเป็นตัวเราดังชื่อที่เรามี ชื่อนี้ก็จะให้พลังแก่เราเช่นเดียวกัน เป็นพลังจากความหมาย และความมุ่งหมายที่เราอยากจะเป็น การเปลี่ยนชื่อไม่ว่าเพราะเปลี่ยนสถานภาพ เช่น บวช แต่งงาน หรือเปลี่ยนเพราะเชื่อในโชคชะตา ทั้งหมดก็สะท้อนว่าเราเคยได้เป็นอะไรมา และปรารถนาอยากจะเป็นคนเช่นไร

ให้ “ชื่อ” เป็นประตูที่เปิดไปสู่การทำความรู้จักและเข้าใจกัน ให้เป็นจุดเริ่มต้นของหนทางสู่การรับฟัง และเคารพในเส้นทางชีวิตอันมีลักษณะจำเพาะของแต่ละคน อย่าได้ปล่อยให้ชื่อเป็นสิ่งไร้พลัง กลายเป็นเพียงป้ายกำกับหรือเครื่องหมายจำแนกผู้คน และอย่าได้ปล่อยปละให้ตัวเราไปด่วนตัดสินใคร เพียงเพราะชื่อของเขาไม่ตรงกับความสนใจ หรือไปพ้องกับประสบการณ์ไม่ดีในอดีตของเราเอง

0 comments:

Post a Comment