สะท้อนใจ


หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กายใจ ฉบับวันที่ 3 มิถุนายน 2555

เงินจำนวนสองหมื่นกว่าบาทมันมีค่ามากแค่ไหนสำหรับเรา?

พี่สาวคนหนึ่งเธอเป็นผู้รับผิดชอบโครงการสายด่วนให้คำปรึกษาทางใจแก่ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ของเครือข่ายพุทธิกา ได้ไปร่วมออกบูธจัดนิทรรศการและกิจกรรมในงานวัดลอยฟ้า ร่วมกับธนาคารจิตอาสา เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา งานนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจมาใช้เวลาเป็นอาสาสมัครสัก ๒๐ นาที เพื่อเขียนการ์ดถึงผู้ป่วยเรื้อรัง นอกจากจะได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมสายด่วนแล้ว ยังทำให้อาสาสมัครแต่ละคนได้ระลึกว่าความตายเป็นเรื่องใกล้ตัวในระหว่างที่ทำกิจกรรม พร้อมทั้งเปิดรับบริจาคทุนสนับสนุนการดำเนินงาน

เพียง ๔ วัน มีผู้ร่วมสมทบทุนมากถึงสองหมื่นกว่าบาท และเงินจำนวนเดียวกันนี้เอง ถูกเก็บไว้ในถุงผ้าใบหนึ่ง ซึ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอยในตอนค่ำของงานวันสุดท้าย

ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันนึกว่ามันอาจถูกลืมวางไว้ตรงไหน หรือมีใครช่วยเก็บลงกล่องไปแล้ว จนเมื่อแน่ใจว่าหายแน่ เราจึงต้องพึ่งประกาศเสียงตามสาย และลงท้ายด้วยการไปแจ้งความ ด้วยความหวังเพียงน้อยนิดว่าจะพบเงินก้อนนี้

สายตาและสีหน้าของเธอผู้รับผิดชอบกิจกรรมนี้ในค่ำวันนั้น แสดงออกถึงความกังวล ความเสียใจ แต่ก็ไม่ฟูมฟายตีโพยตีพาย ถึงกระนั้น น้องๆ ต่างรู้กันว่า นี่เป็นสถานการณ์ไม่ง่ายเลยสำหรับเธอ

กลางดึกของคืนเดียวกัน เธอเขียนเอาไว้ในเฟซบุ๊คว่า “อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าอุตส่าห์ทุ่มเททำงานไม่หยุด จบด้วยแบบนี้ แต่ยังไงๆ เราต้องรับผิดชอบ เพราะเงินที่มีค่ามาก ก็ต้องควักเงินส่วนตัวมาคืน ไม่ใช่น้อยๆ เพราะเป็นน้ำพักน้ำแรงของทุกคนด้วย เฮ้อ .. เพราะเราไม่พัก ไม่ปล่อยวางจิตวางใจ เหนื่อยก็ต้องรู้จักพอ .. ได้แค่ไหนแค่นั้น แม้จะเป็นงานอาสาสมัคร ก็ต้องทำเท่าที่ทำได้ ต้องใจแข็ง .. .นี่แหละบทเรียนราคาแพงตัวจริง .. เศร้า อดเซ็งไม่ได้ หิวก็หิว เฮ้อ”

ข้อความนี้สะท้อนบอกอะไรออกมามากมาย ขณะเดียวกันเธอก็มีคุณภาพของการสะท้อนย้อนมองตัวเองอย่างงดงาม โดยเฉพาะเรื่องการวางใจ ปล่อยวางจากความคาดหวัง แล้วกลับมาอยู่ในปัจจุบัน

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอกลับมาเขียนความเห็นเพิ่มเติมเอาไว้ พร้อมบอกขอบคุณน้องๆ ที่เขียนให้กำลังใจ เธอเขียนว่า “แม้นั่นคือต้นทุนหนึ่งที่ตั้งใจทำเพื่อใช้ต่อยอดงานต่อไป อาจจะเป็นเพราะเป็นงานเริ่มต้น จึงรู้สึกกับการทุ่มแรงใจ แรงกาย สำหรับอารมณ์แรกเมื่อวาน แต่เมื่อกลับมาดูว่าได้อะไรจากงานนี้ ที่จริง เราก็ต้องการให้งานได้เผยแพร่ให้คนได้ประโยชน์จากการปรากฏโครงการ ยิ่งมีมาก ก็เท่ากับว่า มีคนรับทราบมากขึ้น คิดอีกทีก็คงให้กำลังใจแก่ทุกคนที่ร่วมทำงาน ขอบคุณทุกคน และโชคดีที่ได้เจอเพื่อนเก่าที่เราไม่แน่ใจกับความสัมพันธ์ แต่พอเจอในงานได้ทักทายเธอ มิตรภาพเก่าๆ ออกมาด้วยรอยยิ้ม ทักทายแบบสหาย ปลื้มปิติไม่น้อย และน้องๆ พี่ๆ .. งานนี้ก็ได้ใจไปหลาย”

จริงแท้ทีเดียว เหตุการณ์ถุงใส่เงินหายครั้งนี้ เราไม่ได้โทษใคร ไม่ได้พร่ำบ่นโชคชะตา แต่เราทุกคนได้พบตัวอย่างอันล้ำค่ายิ่งกว่าเงินสองหมื่นกว่าบาท ตัวอย่างของคนที่มีการเรียนรู้อยู่ในตัว เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ไม่คาดฝัน ผลที่คาดหวังมันพลิกผัน แต่ในอรุณรุ่งของอีกวัน เธอยังสามารถทันได้หันกลับมาเห็นสมบัติอันล้ำค่ายิ่งกว่าเงินตรา เห็นเป้าหมายที่แท้ของงาน มิตรภาพ และพลังในการสร้างงานต่อไป

เธอสรุปประสบการณ์นี้ด้วยประโยคสั้นๆ ทว่าทั้งมุ่งมั่น และเรียบง่ายว่า

“เดินหน้า ใส่บทเรียนนี้ไว้”

0 comments:

Post a Comment