May
27
2012
เป็นเพื่อน
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กายใจ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม 2555
เชื่อไหมว่าความตั้งใจดีๆ ของเราที่มักจะล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า สามารถลุล่วงและเป็นไปได้ เพียงแค่เรามีใครสักคนเป็นเพื่อน
เมื่อปีกลาย หนุ่มสาวสามคนได้ตกปากรับคำพระท่านว่าจะนั่งสมาธิภาวนาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงทุกวัน ตลอดช่วงเข้าพรรษาเป็นเวลาสามเดือน
ก่อนหน้านี้ อย่าว่าแต่ครึ่งชั่วโมงเลย แค่สิบนาทีก็ไม่มีทางจะทำสำเร็จ แต่ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทั้งสามคนจะทำได้ทุกวัน บางคนยังคงนั่งภาวนาเป็นประจำต่อเนื่องมากระทั่งทุกวันนี้
หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มบอกว่า บางวันเหนื่อยมาก อยากหลับไปเลย แต่พอนึกขึ้นว่า เพื่อนอีกสองคนคงกำลังปฏิบัติภาวนากันอย่างแข็งขันอยู่เป็นแน่ จึงทำให้มีกำลังใจ ในเมื่อคนอื่นยังรักษาสัญญาและยังพยายาม ทำไมเธอจะละทิ้งมันไปเสีย
การมีคนที่ตั้งใจทำอะไรดีๆ เหมือนๆ กัน เป็นเสมือนเพื่อนร่วมเดินทางไกล ทำให้เรามีกำลังใจที่ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ไม่ล้มเลิกง่ายๆ
ในบรรดาแนวทางวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ จึงมักมีวิธีว่าด้วยการมีคนใกล้ตัวสนับสนุน ให้กำลังใจ และยิ่งมีผลมากถ้าเป็นคนที่กำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน อยู่ในระหว่างพยายามต่อสู้เอาชนะในเรื่องเดียวกัน
เพราะระหว่างที่เราได้รับกำลังใจจากเพื่อน เขาก็ได้รับสิ่งเดียวกันนี้จากเราเช่นเดียวกัน การเป็นเพื่อนคือต่างฝ่ายได้ช่วยเสริมแรงให้กัน เมื่อคนหนึ่งทำได้ อีกคนก็ทำได้ กลายเป็นทั้งกลุ่มก็ทำได้ทุกคน
ไม่น่าแปลกไจที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมอาสาสมัครจึงชวนกันไปเป็นกลุ่ม เช่นเดียวกับเรื่องจิตตปัญญาหรือการเรียนรู้เข้าใจตัวเองเพื่อพัฒนาจิต ยิ่งต้องการเพื่อนร่วมทางผู้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกัน แม้ในบางรูปแบบเป็นการอยู่วิเวก เช่น นิเวศน์ภาวนา ก็ยังต้องการกลุ่มแลกเปลี่ยน แบ่งปันประสบการณ์ที่แต่ละคนได้พบในใจ หรือประสบการณ์ในมิติความคิดความรู้สึกที่หลากหลายต่างกันไป ยิ่งได้ฟังจากเพื่อน ยิ่งเป็นการเสริมแรงของการเรียนรู้
แนวคิดหรือความรู้บางเรื่องในจิตตปัญญาศึกษานั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เรียนจะเข้าใจและเข้าถึงความหมายที่แท้จริงของการเรียนรู้ถ้าเขาไม่ได้เรียนไปพร้อมกับคนอื่นๆ ในฐานะเพื่อนร่วมเดินทาง เช่น เรื่องนพลักษณ์ ซึ่งว่าด้วยคุณลักษณะพื้นฐานและพฤติกรรมเก้าแบบที่แต่ละบุคคลมีและแสดงออกต่างกัน ลำพังการเรียนโดยลำพังย่อมจดจำเนื้อหาโครงสร้างความรู้นั้นได้ แต่ความเข้าใจในบุคคลอื่นที่เข้าถึงหัวใจของเราและเขา จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีเพื่อนร่วมเรียนรู้ ผู้วางใจและเปิดใจให้เราศึกษาจากชีวิตและความรู้สึกจริงของเขา ในเวลาเดียวกัน ขณะที่เขาเป็นเพื่อนผู้ให้ เขาก็กำลังได้รับความรู้และความเข้าใจจากเราเช่นกัน
ความเป็นเพื่อนในการเรียนรู้นั้นไม่จำกัดอยู่เพียงการส่งเสริมสนับสนุน ในการเรียนรู้ชีวิต ยิ่งต้องการความเป็นเพื่อนที่มากกว่านั้น เป็นเพื่อนที่กล้าท้วงติง ตักเตือนเรา แม้ว่าในเรื่องที่ขัดใจ หรือทำให้เราไม่สบายใจ เช่น บางครั้งเราความเชื่อที่ยึดมั่นถือมั่นมาก หากไม่มีเพื่อนทำหน้าที่ชี้ให้เห็นว่าเรากำลังติดกับในสิ่งใดอยู่ เราอาจจะไม่มีวันได้แก้โจทย์นี้ในชีวิตตัวเองได้
ความเป็นเพื่อนจึงเป็นหน้าที่สำคัญและยิ่งใหญ่ เป็นเพื่อนที่เหมือนน้ำเปล่าไว้ดับกระหายและให้กำลัง ไม่ต้องมีสีสัน และไม่ทำให้เสพติดเหมือนน้ำหวาน ไม่ใช่แค่อยู่ข้างๆ ทางกายภาพ แต่เป็นผู้ที่ยืนหยัดเคียงคู่กันทั้งในทางจิตใจ และอยู่เคียงข้างประคับประคองกันทางจิตวิญญาณ
May
20
2012
หลบตัวเอง
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ กายใจ ฉบับวันที่ 20 พฤษภาคม 2555
การอบรมครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในช่วงเวลาสุดท้ายของงานที่ไมโครโฟนค่อยๆ ถูกส่งผ่านมือทีละคน แต่ละคนต่างทยอยพูดออกมา ได้บอกขอบคุณกัน เล่าบทเรียนที่ตนเองประทับใจ หรืออะไรก็ตามที่อยากฝากไว้ก่อนจากกัน เป็นช่วงเวลา “เช็คเอาท์” ที่เราจะได้ฟังทุกๆ คน
ช่วงขณะนั้นเอง ผู้ประสานงานจัดอบรมคนหนึ่งรีบลุกผลุนผลันขึ้นออกจากที่นั่งซึ่งอยู่ด้านหลังห้อง เขาหายไปสักพักหนึ่ง และมันอาจใช้เวลานานพอที่ไมโครโฟนนั้นจะถูกส่งต่อให้พูดกันรายคน จนเลยตำแหน่งที่นั่งของเขาไป และหากเขากลับมาหลังจากไมโครโฟนถูกส่งวนจนครบวง เขาคงไม่ต้องพูด เพราะนั่นคือถึงเวลาสรุปของการอบรมครั้งนี้แล้ว
แต่บทสรุปนี้จะสมบูรณ์และภาคภูมิ สำหรับการเดินทางร่วมกันมาได้อย่างไร หากยังไม่ได้มีเราทั้งหมดทุกคนดำรงอยู่ในห้วงเวลานี้ร่วมกัน
เหล่าพี่ๆ ผู้ร่วมดูแลการอบรมครั้งนี้ รีบกวักมือเรียกผู้ประสานงานอีกคน กระซิบกำชับวานให้ออกไปตามตัวเขาให้เจอ และรีบพาเข้าห้องมาให้ทันให้จงได้ สุดท้ายเราก็ได้เขาเข้ามาในห้อง และได้ถือไมโครโฟนนั้นพูดกับทุกคน ชั่วโมงถัดมาหลังการอบรม เป็นเวลาของการสะท้อนหลังจัดกิจกรรม เรานั่งล้อมวงคุยทบทวนถึงการอบรมที่ผ่านมา มีอะไรน่าประทับใจ มีอะไรที่เป็นตัวอย่างดีๆ มีอะไรที่น่าจะปรับพัฒนาอีกได้บ้าง และรวมทั้งสะท้อนประสบการณ์เรียนรู้ที่เกิดขึ้นในตัวเราของเราเอง
ผมใช้โอกาสนี้ถามเขาว่า สาเหตุที่รีบร้อนลุกออกไปก่อนไมโครโฟนมาถึง นั่นเพราะต้องการหลบ จะได้ไม่ต้องพูดช่วงเช็คเอาท์ใช่หรือไม่ เขาก็กล้าหาญเพียงพอที่จะตอบว่า “ใช่” พร้อมอธิบายว่า ด้วยภาระงานจัดการอาหารการกินและอุปกรณ์ประกอบการอบรม ทำให้เขาไม่ได้อยู่ในห้องตั้งแต่ต้น ไม่ได้บอกความคาดหวังในตอนเริ่มงาน เมื่อจะต้องเช็คเอาท์ เขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เหล่าพี่ๆ ถึงต้องช่วยเตือนความจำให้ว่าโอกาสของการเช็คเอาท์ คือ เผยอะไรก็ได้ในใจ บอกอะไรก็ได้ที่กำลังคิด หรือกระทั่งบอกสภาวะร่างกาย มีเรื่องให้พูดมากมายในโอกาสนั้น และเป็นพื้นที่แห่งการรับฟังที่ทุกคนสร้างขึ้น การลุกออกไปในตอนนี้ก็เท่ากับการหลบเลี่ยงและไม่ให้เกียรติ
จริงอยู่ว่าเขากล้าหาญพอที่จะยอมรับว่าหลบ แต่นั่นยังไม่มากพอ ความกล้าที่แท้ต้องกล้าเผชิญกับใจตัวเองว่าไม่ได้หลบไมโครโฟน แต่หลบการยอมรับและให้เกียรติตัวเองว่างานสวัสดิการและจัดอุปกรณ์ที่ได้ทำไปนั้นเป็นบทบาทหน้าที่อันทรงคุณค่า เป็นภารกิจที่มีความหมายทำให้การฝึกอบรมนี้ดำเนินไปได้ และการเป็นผู้ประสานงานมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้เข้าร่วมอบรมและวิทยากร
พี่ๆ บอกน้องผู้ประสานงานคนนี้ว่า เราไม่ได้จัดเช็คเอาท์ให้เป็นแค่สัญลักษณ์สื่อถึงความเท่าเทียมและให้เกียรติกัน การเช็คเอาท์จะสมบูรณ์พร้อมก็ต่อเมื่อเราทุกๆ คน ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ได้แสดงตนในฐานะสมาชิกคนหนึ่งซึ่งมีศักดิ์และมีสิทธิ ที่จะได้รับคำชื่นชม คำขอบคุณ และได้รับการจดจำถึงความสำคัญในการมีอยู่ของเขา
การหลบออกไปนอกวง จึงเท่ากับว่า เราบอกปัดการขอบคุณตัวเอง เท่ากับการปฏิเสธคุณค่าที่เราได้กระทำ และไม่ให้เกียรติกับศักดิ์ศรีที่เรามี เมื่อเราเองละทิ้งมันไปเสียแล้ว เราจะมองเห็นความชื่นชมและจะได้ยินคำขอบคุณจากผู้อื่นได้อย่างไร หากจะหลบครั้งนี้ได้ ครั้งหน้าก็ต้องหลบอยู่ร่ำไป
เรามีคุณค่า ไม่ใช่เพราะตำแหน่ง แต่เรามีคุณค่า เมื่อตัวเรานี่แหละกล้ายอมรับในคุณค่าของงาน และคุณค่าของเราเอง
Subscribe to:
Posts (Atom)
?
Knoom :
น. ชายที่มีอายุพ้นวัยเด็ก
ว. เรียกชายที่ยังดูไม่แก่ตามวัย
น. ชายที่มีอายุพ้นวัยเด็ก
ว. เรียกชายที่ยังดูไม่แก่ตามวัย
Labels
- กาย-ใจ (48)
- จิตตปัญญา (43)
- จิตตปัญญาศึกษา (20)
- reflection (9)
- movie (8)
- สุนทรียสนทนา (6)
- นพลักษณ์ (4)
- book (3)
- การเมือง (3)
- jitcinema (2)
- leadership (2)
- Twitter (1)
- event (1)
- management (1)
- story (1)